เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย…..อากาศร้อน/หนาวมีผลต่อเวลาวิ่ง
เพื่อนๆที่วิ่งระยะไกลๆคงจะรู้ดีถึงผลกระทบของสภาพอากาศต่อเวลาที่ทำได้ โดยเฉพาะมาราธอนซึ่งเป็นกีฬาที่ใช้เวลานานมากที่สุดประเภทหนึ่ง แถมไม่ได้วิ่งเป็นทีม ไม่ได้เล่นในร่ม ไม่มีพักครึ่ง ไม่มีขอเวลานอก การวิ่งระยะไกลๆหลายๆชั่วโมงกับสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป ย่อมส่งผลต่อการแข่งขันแน่นอน ล่าสุดมีการนำผลการแข่งขันของมาราธอนรายการใหญ่ๆ เช่น New York, London, Chicago, Boston, Berlin และ การแข่งขันโอลิมปิก มากกว่า 900 รายการ โดยวิเคราะห์เวลาที่นักวิ่งทำได้มากกว่า 4.7 ล้านครั้ง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อดูว่าอุณหภูมิในวันแข่งขันมีผลต่อเวลาในการวิ่งอย่างไรบ้าง
วันที่นักวิ่งทำเวลาได้ดีที่สุด คือวันที่อุณหภูมิต่ำๆ คืออยู่ประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส ล่ะครับ นักวิจัยเค้าลองศึกษาดูต่อไปทำให้รู้ว่าเวลาที่ทำได้กับอุณหภูมิในวันแข่งขันมีความสัมพันธ์กัน แถมเป็นความสันพันธ์ที่มีผลอย่างมาก (Non-linear Relation) ด้วยล่ะครับ หมายความว่าอุณหภูมิเพิ่มนิดเดียว เวลาที่วิ่งได้จะเปลี่ยนไปเยอะเลยล่ะครับ
ยกตัวอย่างเช่น ในวันที่อากาศประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส นักวิ่งจะวิ่งทำเวลาได้ช้ากว่าวันที่อุณหภูมิ 5-10 องศาเซลเซียส อยู่ประมาณ 5 นาที แต่ถ้าอุณหภูมิขยับเป็น 20-25 องศาเซลเซียส เวลาวิ่งเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นถึง 19 นาที และ ถ้าอุณหภูมิขยับเป็นประมาณ 30 องศาเซลเซียส เวลาวิ่งเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว!!!
คำถามที่ตามมาคือ…ในเมื่ออุณหภูมิมีผลต่อเวลาการวิ่งมากๆ ถ้างั้นจะให้แฟร์ๆ…ควรจะมีแต้มต่อในรายการที่วิ่งในอากาศร้อนๆไหม? ควรมีการปรับเวลาวิ่งโดยมีการนำปัจจัยในเรื่องของอุณหภูมิมาคิดไหม? จริงๆนักวิจัยเค้าลองปรับเวลาวิ่งที่ทำได้ของนักวิ่งชั้นนำต่างๆโดยอิงตามอุณหภูมิของรายการที่นักวิ่งเหล่านั้นลงแข่ง ก็พบว่าเจ้าของสถิติโลกจะเปลี่ยนจาก Denis Kimetto เป็น Kenenisa Bekele ล่ะครับ เรื่องนี้แอดมินว่าคงจะถกเถียงกันได้อีกเยอะ เพราะถ้าคิดตามตรรกะนี้ ก็คงต้องนำปัจจัยต่างๆทั้งเรื่องลม ความชื้น ความกดอากาศ ฯลฯ เข้ามาคิดด้วยหมดไหม?
แต่ปัญหาที่น่าสนใจคือเรื่อง Climate Change ล่ะครับ เพราะเราคงจะหนีไม่พ้นที่โลกจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ การทำลายสถิติก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ นักวิ่งที่อยากทำลาย PB ของตัวเองก็อาจจะเลือกไปวิ่งทีรายการที่อากาศเย็นกว่า รายการวิ่งที่จัดในหน้าร้อนก็จะมีปัญหามากขึ้น เพราะนักวิ่งมาวิ่งทีไร…ทำเวลาได้ไม่ดีทุกที รายการวิ่งต่างๆจะปรับตัวอย่างไร มองอีกมุม ก็อาจเป็นโอกาสให้บริษัทต่างๆพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้นักวิ่งสามารถวิ่งได้ดีแม้ในอากาศร้อนๆก็เป็นได้นะครับ