วอร์มอัพและคูลดาวน์เสมอ

วอร์มอัพและคูลดาวน์เสมอ

การวอร์มอัพของแต่ละคนอาจจะมีวิธีแตกต่างกัน เช่น บางคนอาจวิ่งเหยาะๆ ก่อนแล้วค่อยเริ่มยืดกล้ามเนื้อทีละหมัด หรือบางคนกลัวหมดแรง ก็ใช้การยืดกล้ามเนื้อเป็นหลัก ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการปรับตัวของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญควรให้เวลาในการวอร์มอัพ 10-15 นาที โดยเริ่มจากกล้ามเนื้อหมัดเล็กไปกล้ามเนื้อหมัดใหญ่คือ จากต้นคอ หัวไหล่ แขน ไปจนถึงกล้ามเนื้อลำตัว น่อง และต้นขา ซึ่งเน้นการใช้งานเยอะ
"แต่ละท่าควรค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที หลายคนค้างไม่นาน ซึ่งจะไม่พอให้ออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยง และกล้ามเนื้อไม่คลายและมีปัญหาบาดเจ็บได้ อีกสิ่งที่นักวิ่งไม่น้อยเลยมองข้ามคือ การยืดกล้ามเนื้อลำตัว ทั้งหลังและหน้าท้อง ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดอาการวิ่งๆ แล้วรู้สึกจุก หรือเป็นตะคริวหน้าท้อง" พญ.ภาวิณี กล่าว
ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าการวอร์มอัพนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ สังเกตได้จากการยืดแล้วรู้สึกโล่งหรือผ่อนคลายหรือไม่ ถ้ายังไม่ผ่อนคลายก็อาจต้องค้างให้นานขึ้น หรือลองเปลี่ยนมุนในการยืดดู
ขณะที่การคูลดาวน์จะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและบาดเจ็บ ควรทำทันทีหลังเข้าเส้นชัย เน้นบริเวณน่องและต้นขาเป็นพิเศษ นานถึง 20 นาที แต่สำหรับนักวิ่งที่ใช้ความเร็วมาควรวิ่งเหยาะๆ ต่อ 1-2 นาที เพื่อปรับสภาพร่างกายก่อนการยืดกล้ามเนื้อ

เข้าสู่ระบบ

LINE LOGO SVG เข้าสู่ระบบด้วย LINE