Sweat and Weight Loss เหงื่อไม่ท่วมอาจแปลว่าเบิร์นไม่พอ
หรือแม้กระทั่งคนที่ใส่แจ็กเกตแบบนี้เวลาเราวิ่งตามสวนสาธารณะ หรืออย่างห้องอบไอน้ำและซาวน่าตามยิมต่างๆซึ่งเป็นการสร้างความรู้สึกสดชื่นหลังจากการเล่นกีฬาว่าวันนี้เหงื่อเราออกเยอะ
เวลาออกกำลังกาย เรามักพูดถึงการเบิร์นไขมันหรือเบิร์นแคลอรี นั่นจึงทำให้เราสนใจไปที่ปริมาณความร้อนหรือเหงื่อของเรา ว่าออกกำลังวันนี้มีเหงื่อออกเยอะหรือน้อย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาที่แม้แต่วงการฟิตเนสเองก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่
บนผิวหนังของเรามีรูระบายเหงื่อมากกว่า 4 ล้านจุดทั่วร่างกาย และเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ร่างกายเราจะมีกลไกระบายความร้อนเพื่อรักษาความคงที่ของ อุณหภูมิออกมาในรูปของของเหลว นั่นแปลว่าเมื่ออุณหภูมิในร่างกายเราสูงขึ้นจากการทำกิจกรรมต่างๆ “เหงื่อ” จะมีหน้าที่คือระบายความร้อนเพียงเท่านั้น
มันจึงทำให้หลายคนสับสนกับคำว่า เบิร์น เพราะเราเชื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่มีการเบิร์น เหงื่อเราจะต้องออกเยอะๆ ถ้าเหงื่อออกน้อย ก็แปลว่าเรายังเบิร์นไม่พอ และน้ำหนักเราจะไม่ลดลง
Sweat and Temporary Weight Loss
เมื่อเราชักเริ่มรู้สึกว่าร้อน ร่างกายเราจะระบายของเหลว น้ำหนักก็จะลดลง เมื่อดื่มน้ำทดแทน น้ำหนักเราก็จะกลับมาเท่าเดิม แล้วทำไมบางครั้งเราจึงยังเห็นพวกนักมวย นักสู้ หรือนักเพาะกายบางคนยังนิยมใส่เสื้อซาวน่าอยู่ล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขายังคงต้องทำการแข่งขันในรายการต่างๆ ที่มีการจำกัด “น้ำหนัก” ผมเพิ่งเห็นมากับตาสดๆร้อนๆ ว่ามีนักสู้คนหนึ่งหนัก 56.7 กิโลกรัม (ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ถูกต้องตามเกณฑ์) เจอกับคู่ต่อสู้ที่มีน้ำหนัก 58.7 กิโลกรัม (เลยเกณฑ์มา 2 กิโลกรัม) ทำให้คู่ต่อสู้ต้องให้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 20 เปอร์เซ็นต์ของค่าชกแก่นักมวยที่มีน้ำหนักตัวเบากว่า แต่ปรากฏว่านักสู้คนที่น้ำหนักน้อยกว่าดื่มน้ำปริมาณมากหลังจากชั่งน้ำหนักเสร็จ โดยการดื่มไปเรื่อยๆ ทั้งวัน(ชั่งน้ำหนักวันศุกร์และชกวันเสาร์) และผมได้มีโอกาสชั่งน้ำหนักพวกเขาอีกทีก่อนขึ้นเวที ปรากฏว่าคนที่มีน้ำหนักน้อยกว่าในตอนแรกมีน้ำหนักตัวปัจจุบันอยู่ที่ 61 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นมา 4.3 กิโลกรัม ในขณะที่อีกคน จากน้ำหนัก 58.7 กิโลกรัม ขึ้นเป็น 59.2 กิโลกรัม ซึ่งเพิ่มมาแค่ 500 กรัม ซึ่งทั้งหมดนี้สรุปได้ว่านักมวยคนแรกที่มีน้ำหนักน้อยกว่าได้รับส่วนต่างเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์ และได้ชกในน้ำหนักที่ได้เปรียบกว่า เพราะเขาตัดน้ำออกจากร่างกายก่อนชั่งน้ำหนัก นั่นจึงทำให้น้ำหนักเขาเข้าเกณฑ์ เราสามารถอดน้ำเพื่อให้น้ำหนักลดได้ แต่วิธีนี้นับว่ามีความเสี่ยงและอันตรายมาก ควรมีผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเพิ่งมีเหตุการณ์ชายชาวสกอตแลนด์ คนหนึ่งได้เสียชีวิตลงเพราะลดน้ำหนักแบบผิดวิธีในการลงต่อยมวยไทยเมื่อต้นปีมานี้เอง
Summary
สรุปก็คือน้ำในร่างกายเรามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในเรื่องของน้ำหนัก เวลาเราเหงื่อออก เราจะสูญเสียน้ำในร่างกายออกไป แต่เราจะไม่ได้สูญเสียไขมันออกไปด้วย (เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เรานั่งอยู่ในซาวน่าเฉยๆ ก็มีกล้ามท้องกันหมดแล้ว จริงไหม?) เพราะฉะนั้นเวลาออกกำลังกาย คุณไม่ต้องสนใจมากว่าเหงื่อจะออกเยอะหรือออกน้อยเพราะมันไม่ได้บอกว่าคุณกำลังเบิร์นไขมันได้ดี และแน่นอนว่าคุณควรจิบน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเวลาเล่นกีฬา ยิ่งคุณมีเหงื่อ
ออกเยอะเท่าไร คุณยิ่งต้องดื่มน้ำทดแทนมากขึ้นเท่านั้น